เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่มีความน่ารักไม่น้อย สำหรับ “เด่นคุณ งามเนตร” และ “แกรนด์ – กรณ์ภัสสร ด้วยเศียรเกล้า” หรือ “แกรนด์ เดอะสตาร์” ที่จับมือฝ่านฟันอุปสรรคกันมาตั้งแต่ช่วงเริ่มคบแรกๆ จนรักกันมานาน 4 ปี
แต่ช่วงหลังกลับเจอข่าวลือสนนั่น ว่าทั้งคู่สะบั้นรัก ปิดฉากความสัมพันธ์ 4 ปี เพราะความคิดที่ต่างกัน ฝ่ายชายอยากแต่งงานแต่ฝ่ายหญิงยังไม่คิดเรื่องนี้ ล่าสุด “เด่นคุณ” ได้ออกมาเคลียร์ถึงประเด็นนี้แล้ว
เลิกกับ “แกรนด์”?
“ก็ตามข่าวแหละครับ คือไม่คุ้นกับการสัมภาษณ์เรื่องแบบนี้ ขอโทษด้วยถ้าพูดอะไรผิดๆ ขาดๆ ก็จริงครับตามข่าว เราตัดสินใจลดความสัมพันธ์มา 3 เดือนแล้วครับ ประมาณช่วงหลังวันวาเลนไทน์ ก็คุยกันครับ คือจริงๆ ผมเป็นคนตั้งคำถามก่อน ว่าในเมื่อสิ่งต่างๆ เราปรับจูนเข้าหากันไม่ได้ เราก็ลองห่างกันอีกดูไหม เพราะเราเคยห่างกันแล้วครั้งหนึ่ง ประมาณเดือนหนึ่ง สุดท้ายมันก็ขาดกันไม่ได้ตอนนั้น ก็ต้องกลับมาเจอกัน กลับมาคบกันเหมือนเดิม ทุกอย่างก็ดีขึ้น แต่วันหนึ่งก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม”
เรารู้ว่าสึกความสัมพันธ์มันไปต่อไม่ไหว เลยตัดสินใจบอกเลิกก่อนใช่ไหม?
“ก็อะไรประมาณนั้นครับ แต่ถ้าถามว่าอยากทำแบบนั้นไหม คงไม่ได้อยากทำหรอก (ยิ้ม)”
เป็นเพราะว่าอยากแต่งงานตามข่าวไหม?
“ไม่ใช่ครับ ตามข่าวบอกวาาอยากแต่งงานแล้ว ก็เลยแยกทางกัน แต่จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ว่า ผมเคยเห็นเขาพูดในโซเซียลเกี่ยวกับเรื่องอะไรแบบนี้ ผมก็เลยถามเขาหลายๆ ครั้ง ซึ่งผมมองว่าเขาก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจในการตอบคำถามนี้มากๆ ว่าเขาไม่อยากมีครอบครัวหรือมีลูก แต่ผมไม่ได้อยากมีครอบครัวเร็วๆ นี้ มันเป็นเรื่องของอนาคตมาก ก็เพียงแต่ผมไม่เข้าใจ ในเรื่องของการไม่อยากมีครอบครัว (มุมมองเรื่องการมีครอบครัวไม่เหมือนกัน?) ใช่ๆ ผมเข้าใจแค่ว่า คนเราจะมีครอบครัว ผมยังไม่เข้าใจเรื่องการไม่มีครอบครัว การไม่มีครอบครัวจริงๆ มันเป็นยังไงผมยังไม่เคยเห็น หรืออาจจะเคยเห็นแต่ไม่เก็ต”
เคยคุยกันเรื่องนี้ไหม?
“เคยคุยครับ ก่อนหน้านี้จะเป็นการพยายามที่จะเข้าใจกันมากกว่า ส่วนใหญ่เวลามีปัญหา เราก็จะปล่อยผ่านมาโดยตลอด เพราะเรารู้สึกว่าเรามีความสุขที่อยู่ด้วยกัน จนลืมมองเรื่องส่วนตัวของแต่ละครที่จะทำให้เข้ากันไม่ได้ เราจะมองข้ามไปตลอด”
ปัญหาคือเรื่องมุมมองของการแต่งงานอย่างเดียว หรือมีอย่างอื่นอีก?
“คือปัญหาเรื่องการแต่งงาน มันเหมือนเรื่องที่ผมสร้างขึ้นมา เพื่อที่จะไม่ได้กลับไปคบกัน เพราะถ้าไม่มีเรื่องนั้น ผมกลับไปง้อตั้งแต่วันนั้นแล้ว”
ทำไมไม่คุยกันตรงๆ ว่าเราก็ไม่ได้อยากจะมีครอบครัวเร็วๆ นี้นะ?
“คุยๆ พูดอยู่ว่ามันไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่เขามั่นใจมาก ว่าเขาจะใช้ชีวิตแบบนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยนะ เพราะมันเป็นเรื่องอนาคต เรื่องไกลมาก ดีไม่ดีในอนาคตผมอาจจะไม่อยากมีครอบครัวก็ได้ใครจะไปรู้”
การตัดสินใจในตอนนั้น เราคิดทบทวนมาดีแล้วใช่ไหมถึงพูดไป?
“ก็เป็นเรื่องความเป็นตัวเองของเขาและของเรา ถ้าพูดแรงๆ ก็คือความเป็นตัวเองของผมไปทำร้ายเขาด้วย”
เรื่องใหญ่จริงๆ คือเข้ากันไม่ได้ใช่ไหม?
“ใช่ครับ ผมจะห่ามๆ ตรงๆ บางทีพูดไม่คิด เป็นคนอย่างนี้แต่ไหนแต่ไร (ยิ่งคบนาน ความเป็นตัวเองยิ่งมีมากขึ้น?) จริงๆ ก็เป็นตัวเองมาตั้งแต่แรกๆ แล้วนะ แต่เราพยายามไม่เอาความเป็นตัวเองมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่า แต่บางครั้งมันก็จะหลุดออกมาบ้าง”
ข่าวบอกว่าเป็นเพราะ “แกรนด์” เป็นลูกคนหนู ต่างกับเรา?
“ไม่เกี่ยวๆ อันนี้ไม่เกี่ยวเลยครับ พ่อแม่แกรนด์น่ารักมาก พี่เกรซ (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) ก็น่ารักมากๆ ซึ่งไม่เกี่ยวเลยว่าเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน แล้วผมถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน มันเป็นเรื่องของผมกับของเขา มันเป็นเรื่องของความชอบ ความไม่ชอบของเขาและของผมมากกว่าครับ”
ไม่ต้องเดา! “แอฟ ทักษอร” ตอบเองแบบชัดเจน หลังถูกจับตาสัมพันธ์ “ทิม – นนกุล”
โลกเปลี่ยน! “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” รับสังคมปัจจุบันต้องปรับตัว
ข่าวเลิกกันออกมาแบบนี้เรางงไหม?
“ไม่น่างงเท่าไหร่ เพราะวงการบันเทิง เวลาเราไปทำงาน เพื่อนเจอผมที่กอง เขาจะเห็นผมซึมๆ แล้วน้ำหนักก็ลดลงเยอะ ค่อนข้างซูบและแปลกๆ ไป เขาก็จะถาทอยู่อย่างนั้น เราก็ไม่ตอบเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ตอบไป ว่าเลิกกับแกรนด์มาพักหนึ่งแล้ว ผู้จัดผู้กำกับเขาก็ถาม ว่าทำไมอาการแปลกๆ ทุกคนจับสังเกตได้ ผมก็ไม่รู้มันคืออาการอะไร มันงงๆ แต่ไม่มีร้องไห้ มันงงๆ ครับ มันสับสน แต่ตอนนี้ผ่านมา 3 เดือนมันดีขึ้นเยอะแล้วครับ น้ำหนักลดจาก 74 เหลือ 65”
ตอนที่บอกเลิก เขาเข้าใจเหตุผลเราไหม?
“เข้าใจเลย เข้าใจทันทีเลย เขาไม่ยื้อครับ เพราะว่าเรื่องที่พูดกันมันมีเหตุผล เรื่องที่เขาพูดผมก็รู้ คือแยกกันเนี่ย ผมก็ไม่ใช่คนที่ถูก ผมก็เป็นคนผิดคนหนึ่ง (เราผิดเรื่องอะไร?) มันเริ่มจากความเป็นตัวเองของแต่ละคน และความเกรงใจกันมากเกินไป หมายถึงว่าตอนแรกๆ เรามีอะไรก็ไม่พูด มีพื้นที่ให้กัน หวังดีให้กันตลอด จนไม่ได้มองว่าเรารู้สึกยังไง แต่วันหนึ่งไอ้ที่รู้สึกยังไงมันได้พูดออกไป ผมก็พูดงงๆ นะตอนนี้”
เรื่องเวลามีส่วนไหม การทำงานเยอะจนไม่ได้เจอกัน?
“ไม่เลย เราให้พื้นที่กันได้ดีมากก ทุกวันนี้ผมก็ยังโทร.หาเขาอยู่ ตั้งแต่แยกกันไปผมก็ยังโทร.หาเขาอยู่ และหลายๆ ครั้งผมก็ยังเป็นคนพูดห่ามๆ ซึ่งก็ยังไปทำร้ายเขาอยู่เหมือนเดิมด้วยซ้ำ”
ห่างกันรอบแรกบอกว่าขาดกันไม่ได้ รอบนี้ยังมีความรู้สึกนั้นไหม?
“ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกนั้น เพราะผมยังโทร.หา เมื่อเช้าก็โทร.หา มีข่าวก็โทร.หา วันนี้ไปถ่ายละครกลับมาเจอเรื่องดีๆ เจอเรื่องไม่ดีก็ยังโทร.หาเขา เล่าให้เขาฟังทุกอย่าง เขาก็จะคอยเตือนคอยสอนผมเหมือนเมื่อก่อนเลย ว่าบางทีเป็นเพราะตัวเราเองหรือเปล่า เขาก็จะแนะนำเราตลอด”
ตอนนี้มูฟออนหรือยัง?
“ส่วนตัวผมว่ามูฟออน แต่ถ้าเพื่อนๆ ที่ถ่ายละครด้วยกัน จะบอกว่าผมยังมูฟออนไม่ได้ แต่ผมว่าผมมูฟออน”
มีโอกาสรีเทิร์นไหม หรือเป็นเพื่อนกันแบบนี้ดีกว่า?
“ถ้า ณ ปัจจุบันตอนนี้คิดอย่างนั้นครับ แต่อนาคตทุกอย่างเป็นไปได้หมด”
ตอนนี้มีความคิดอยากไปง้อขอคืนดีไหม?
“ก่อนหน้านั้นมันมีครับ แต่รู้สึกว่ามันก็จะถูกอะไรขัดตลอด เดี๋ยวเราก็ไปทำให้เขาเสียใจอีก ทำให้เขารู้สึกแย่อีก”
มีโอกาสได้คุยกับคนรอบตัว “แกรนด์” บ้างไหม?
“วันที่ผมรู้สึกดีขึ้น ผมโทร.ไปนอยด์กับเขา เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ผมทำถูกแล้ว ที่ขอแยกทางกับเขา เขาบอกว่าเขาก็มีคิดถึง แต่เขาอยู่ได้ เขาใช้ชีวิตได้ สุดท้าย ผมก็เหมือนกัน สุดท้ายเราก็โทร.หากันแก้ปัญหาความคิดถึง”
เสียดายไหม 4 ปี?
“ก็ยังเป็นคำตอบเดิม ว่าผมก็ยังงงๆ อยู่เหมือนเดิม”
การโทร.คุยกันมันเปลี่ยนไปไหม หลังจากสถานะเปลี่ยน?
“เหมือนเดิม เขาก็ยังเรียกผมว่าไอ้หมาเหมือนเดิม แล้วก็เสียงยังน่ารักเหมือนเดิม (ยังอยากมีเขาอยู่ในชีวิต ไม่ว่าสถานะไหน?) ก็อย่างนั้น แน่นอนว่าไม่ได้อยากมีแต่มันต้องมี เขาก็โอเคครับ เพราะต่างคนก็ไม่ได้ตัด”
ถ้าเขามีคนอื่นเข้ามาเราโอเคไหม?
“โอเคครับ โอเคจริงๆ ตอนนี้ผมโอเคขึ้นแล้ว ผมค่อยๆ ดีขึ้นครับ”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
คำใบ้คู่รักเสียงดีเลิกเงียบ หวยมาออกที่คู่เรารู้สึกยังไงบ้าง?
“ก็คิดว่าอาจจะเป็นคู่เราได้ (หลายคนบอกคำใบ้ไม่ตรง?) ใช่ๆ ใบ้ว่าร้องเพลงเสียงดีใช่ไหม เพราะเสียงเราพอไปวัดไปวา คนที่เขาเขียนข่าว เขาอาจจะเคยฟังผมร้องเพลงก็ได้”
ก่อนให้สัมภาษณ์วันนี้ได้คุยกับ “แกรนด์” ไหม?
“คุย ตอนแรกผมถามว่าวันนี้มีไปงานนะ นักข่าวต้องมาสัมภาษณ์แน่ๆ เลย เขาก็บอกประมาณว่ามาอะไรก็พูดไปเลย พูดตามตรงไปเลย ตามความรู้สึกไปเลย”
อะไรที่เคยเป็นห่วงเขาในฐานะแฟน แล้วตอนนี้ยังเป็นห่วงอยู่ไหม?
“เป็นห่วงเหมือนเดิม เป็นห่วงสุขภาพเหมือนเดิม แต่ทุกวันนี้เขาดูแอคทีฟขึ้น มีความสุขขึ้นมากเลย (หัวเราะ) (ได้เจอกันบ้างไหมตั้งแต่เลิกกัน?) ไม่ได้เจอเลยครับ”
ถ้ามีความรักครั้งใหม่ เราสามารถลดหรือปรับนิสัยพูดห่ามๆ ของเราได้ไหม?
“ที่สังเกตตัวเองเวลามีแฟนมา พอหลังจากเลิกกันมันเป็นบทเรียน ทำให้ผมปฎิบัติกับอีกคนหนึ่งได้ดีขึ้นครับ”
ตอนนี้สามารถเจอกันได้ไหม?
“ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย ผมเชื่อว่าเขาก็เจอได้ครับ แต่แรกๆ อาจจะมีจึ้กนิดหนึ่ง (จะมีโอกาสนัดกินข้าวไหม?) โอ้ ไม่กล้าหรอกครับ ไม่มีใครกล้านัดหรอก มีแต่ประมาณว่าเขาจะรักหมาผมมาก ก็จะแบบวันนี้เราไปทำงานนะ เราไม่อยู่บ้านนะ เธอเขามาหาหมาเราได้ แต่เขาก็ทำงานหนักช่วงนี้”
ผ่านมา 3 เดือนเราเปิดใจใหม่ได้หรือยัง?
“ถ้าถามตอนนี้ก็ยังไม่อยากจะมีใคร แต่ในอนาคตไม่รู้ครับ”
สถานะเราสองคนตอนนี้เรียกว่าอะไรดี?
“ไม่อยากตั้งสถานะเลย ไม่ตั้งสถานะดีกว่า ผมยังไม่พร้อมสำหรับการตั้งสถานะ รู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ติดขัด ไม่ได้ติดค้างอะไร แต่รู้สึกแปลกๆ ถ้าต้องพูดว่าเพื่อน”
อยากฝากอะไรสำหรับคอมเมนต์ที่เข้ามาไหม?
“ไม่เป็นไรครับ ตามสบายเลยครับ ไม่ได้วอรี่อยู่แล้วครับ คนเรามันไม่เหมือนกัน ผมเฉยๆ แล้วกับเรื่องคอมเมนต์ แต่สำหรับคนที่เสียดาย คนที่ชอบ ในการที่เราเล่นติ๊กต๊อกด้วยกัน ถ้ามีโอกาสก็อาจจะได้ถ่ายด้วยกันอีกได้ ส่วนรูปคู่ในไอจีก็ยังมีอยู่ ไม่ลบแน่นอนครับ (มีคนใหม่ก็ไม่ลบ?) ก็ถ้าสมมติว่าเขารับได้ก็ไม่ลบ แต่ไม่น่าจะลบ ไม่รู้เหมือนกัน เป็นเรื่องของอนาคตครับ (ยิ้ม)”
ขอบคุณภาพจาก IG grand_thestar ,denkhun__ngamnet